เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า? เรื่องแปลกแนวลึกลับที่น่าสนใจในโลกนี้มีอยู่เยอะมาก ทั้งที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราอาจพลาดเรื่องน่ารู้ไป วันนี้ทีนเอ็มไทยได้รวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน กับ ? 5 เรื่องลี้ลับสุดแปลกของโลก ?รับรองว่าเป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน
5 เรื่องลี้ลับสุดแปลกของโลก

1. Shanti Deva
ในปี 1930 ซานติ เทวี หญิงสาวอายุ 4 ขวบ จากนิวเดลี ประเทศอินเดีย ได้บอกพ่อแม่ของเธอว่า ชาติก่อนเธอเป็นแม่ลูกสาวที่ตายจากการคลอด โดยสามีของเธอคือเกฐานารถ ทั้งเธอและสามีอาศัยอยู่ในเมืองมัตทรา(หรือ Mathura) ตอนแรกพ่อแม่ของเธอนึกว่าเป็นบ้า จึงพาเธอไปพบกับแพทย์ และเมื่ออยู่ต่อหน้าแพทย์เธอก็เล่าเรื่องของเธออย่างละเอียดยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ลูกคนแรก วัยที่เธอตายในระหว่างเด็กอยู่ในท้องเมื่อ 1925 ซานติได้รับการตรวจสอบจากแพทย์ถึง 6 คนด้วยกัน แต่ไม่มีแทย์คนใดหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอได้เลย อย่างไรก็ดีญาติของซานติเริ่มตรวจสอบสิ่งที่เธอเล่าโดยตามหาชายที่ซาติอ้างว่าเป็นสามีของเธอ ก่อนจะพบว่ามีชายคนที่ว่าอยู่เมืองมัตทราจริง และเขามีลูกสองคนจริง แต่ชายดังกล่าวไม่กล้าไปพบกับชาติภรรยากลับชาติมาเกิดของเขา เขาเลยส่งญาติไปและเมื่อญาติไปถึงซาติก็จำเขาได้ทันทีและเล่ารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับญาติคนนี้ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าการระลึกชาติมีอยู่จริง หากแต่กระนั้นครอบครัวของซานติ และครอบครัวของสามีชาติที่แล้วของซานติก็ไม่ได้เกี่ยวดองกัน หรือมีเรื่องกันแต่อย่างใด สุดท้ายซานติได้ใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงธรรมดาในชาติใหม่ของเธอจนถึงปัจจุบัน

2. Creepy Gnome
ในปี 2008 กล้องวิดีโอมีการจับภาพสิ่งมีชีวิตลึกลับในจังหวัด Salta ประเทศอาร์เจนตินาได้ ถ่ายทำโดย Jose Alvarez โดยในหนังสือพิมพ์บอกว่า ตอนนั้นเขากำลังคุยกับเพื่อนในการเดินทางตกปลาครั้งล่าสุด มันเป็นตอนเช้า เขาเริ่มคุยโทรศัพท์มือถือในขณะที่คนอื่นๆ คุยและล้อเล่น ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนคนปาหิน เขามองหาที่มาของเสียง ก็พบว่าหญ้ามีการเคลื่อนไหว ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันคือสุนัข แต่เมื่อได้เห็นเจ้าของเสียงออกมาก็พบว่ามันน่ากลัวจริงๆ โดยคาดว่าสิ่งมีชีวิตที่จับภาพคือ โนมภูตขนาดเล็ก ที่มักปรากฎในนิทาน รูปร่างคล้ายคนแคระ ชอบอาศัยอยู่ในถ้ำคอยเก็บรักษาสมบัติล้ำค่า ต่อมาวิดีโอเทปนี้ถูกนำไปทำคลิปและถูกแพร่ไปตามเว็บต่างๆ

3. Freddy Jackson?s Ghost
ภาพถ่ายผีที่น่าขนลุกนี้ถูกถ่ายขึ้นในศตวรรษที่ 1919 ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 โดยเซอร์ วิกเตอร์ กอดดาร์ก นายทหารเกษียณอายุ โดยภาพถ่ายดังกล่าวมาจากการถ่ายหมู่ของทหารใต้บังคับบัญชาบนเรือ HMS กอดดาร์ดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งภาพนี้คงไม่โด่งดังไปทั่วโลก ถ้าในแถวบนสุดด้านหลังของทหารคนที่สี่จากซ้าย ปรากฏร่างของชายลึกลับคนหนึ่งที่กำลังยิ้มยิงฟันขาวรวมอยู่ด้วย โดยผีนี้คาดว่าเป็นนาย เฟรดดี้ แจ๊คสันที่เพิ่งเสียชีวิตในปี 1919 อย่างกะทันหันจากใบพัดเครื่องบินไปเมื่อสองวันก่อน ว่ากันว่าวิญญาณแจ๊คสันอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว จึงยังมาปรากฏตัวถ่ายรูปกับเพื่อนๆ…

4. Overtoun Bridge
?สะพานสุสานสุนัข? เป็นสะพานโค้งสร้างในปี 1859 ในมิลตัน, ดัมบาร์ดัน สก็อตแลนด์ ที่มันได้ชื่อฉายานี้เพราะอดีตที่ผ่านมามีสุนัขหลายตัวไปฆ่าตัวตายโดยการโดดจากสะพานแห่งนี้อย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่การศึกษาพบว่าสุนัขในแถบนั้น เริ่มมีพฤติกรรมฆ่าตัวตายโดยโดดจากสะพานเริ่มในช่วง 1950 หรือ 1960 เฉลี่ยหนึ่งตัวต่อหนึ่งเดือน(อาจสิบตัวต่อหนึ่งเดือน) โดยจุดที่กระโดดนั้นนำไปสู่ความสูงกว่าสิบห้าฟุตทำให้สุนัขตายทันที แม้สุนัขบางส่วนรอดก็จริงแต่มันก็กลับมากระโดดฆ่าตัวตายอีก และที่น่าสนใจคือสุนัขที่ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ที่จมูกยาว ทำให้หลายคนเชื่อว่าสะพานนี้มีผีสิง และอาจเป็นคำสาปของเด็กคนหนึ่งที่ถูกโยนตกสะพานในปี 1994(และคนโยนก็มีพฤติกรรมอยากฆ่าตัวตายด้วย) และนอกจากนี้ยังมีคนเชื่อว่าสะพานแห่งนี้เป็นที่กั้นระหว่างโลกคนเป็นกับคนตายซึ่งเป็นสายตรงหากจะข้ามไป ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้ได้รับความสนใจจากต่างประเทศ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ได้ส่งคนเข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่าบริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของหนู จากการตรวจสอบพบว่าพวกมันมีกลิ่นที่สุนัขไม่ชอบ และนี้คือสาเหตุที่ทำให้สุนขมีความคิดอยากฆ่าตัวตายหรือไม่นั้นก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

5. An Unfinished Race
เป็นตำนานการหายตัวของเจมส์ โวสสัน(James Worson ) โดยตามตำนานเล่าว่าเขาเป็นช่างทำรองเท้าอยู่ใน Leamington Spa, Warwickshire, อังกฤษ โดยมีพยานสำคัญสองคนคือแฮมเมอร์สัน เบิร์นส และบาร์แฮม ไวส์ เป็นคนรู้เห็นการหายไปของเขาครั้งนี้และไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคืออะไรกันแน่?
วันนั้นเป็นวันที่ 3 กันยายน 1873 ชายสองคนดังกล่าวเป็นพยานให้แก่เจมส์ที่บอกว่าเขาสามารถวิ่งไม่หยุดจาก Leamington Spa ไปโคเวนทรีที่อยู่ห่างระยะทางประมาณ 9 ไมล์โดยไม่เหนื่อยได้ โดยเขาขอพิสูจน์โดยการวิ่งในระยะทางดังกล่าว เขาเริ่มวิ่งพร้อมกับผู้ติดตาม(ขี่ม้าหลายคน)เพื่อตามมาดูดังกล่าว ระหว่างแข่งเจมส์สะดุดล้มลง และจู่ๆ เขาก็ร้องไห้กรีดร้องอย่างน่ากลัว(พยานในเหตุการณ์วันนั้นบอกว่ามันเป็นเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวที่สุดที่เขาเคยได้ยิน) และเขาหายไปอย่างลึกลับโดยไม่ยืน และไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย มีการจัดกำลังค้นหาเจมส์หลายครั้งแต่พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยของเจมส์เลย